โรคผิวหนัง (Skin Disease)
โรคผิวหนัง (Skin Disease) คือโรคภัยอีกชนิดที่พบได้มากในประเทศไทยที่เต็มไปด้วยอากาศร้อนอบอ้าว และมลพิษ ซึ่งโรคผิวหนังหลายโรคนั้นถูกมองข้ามไป เนื่องจากมันพบได้ง่ายในชีวิตประจำวัน โรคที่เกิดกับผิวหนัง มีสาเหตุต่างๆมากมายหลายประการ อาจเกิดจากการติดเชื้อหรือไม่ มีการติดเชื้อก็ได้ โรคผิวหนังบางชนิดมีรอยโรคที่ผิวหนังคล้ายคลึงกันทั้ง ๆที่อาจมีสาเหตุที่แต่กต่างกัน และในทางตรงกันข้ามรอยโรคที่ไม่เหมือนกัน อาจจะมีสาเหตุของโรคเหมือนกันก็ได้
โรคผิวหนังต่างๆ
โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้หรือโรคภูมิแพ้ผิวหนัง ก็อาจเกิดจากปัจจัยภายนอกได้เช่นกัน
รักษาโดยแพทย์ผู้ผ่านการศึกษาและอบรม
โรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ รักษาโรคผม เล็บ ผิวหนัง โดยเฉพาะ ประสบการณ์มากกว่า 15 ปี
พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์
(อาจารย์เกตุ)
- สะเก็ดเงิน
- งูสวัด
- ลมพิษ
- กลาก
- เกลื้อน
- สังคัง
- เริม ฝี
- แผลริมอ่อน
- ผื่นคัน
- ผิวหนังอักเสบ
- น้ำเหลืองไม่ดี
- เชื้อราที่ผิวหนัง
- หูดหงอนไก่
- หูดอวัยวะเพศ
- ซิฟิลิส
- ซิฟิลิส หูดข้าวสุก
สิว (Acne)
โรคผิวหนัง – สิว (Acne)
สิวคือโรคผิวหนังที่มีภาวะรูขุมขนเกิดการอุดตัน อักเสบ หรือบางครั้งเกิดการติดเชื้อ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดหรือแผลเป็นตามมาได้ มีอาการเป็นตุ่มเล็กๆ อาจมีสีขาวขุ่นหรือเป็นจุดดำ หากมีการอักเสบจะพบตุ่มหนอง มีสีแดง หรือคล้ายฝี ทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือแผลเป็น กระจายอยู่บนใบหน้า อก หลัง คอ และแขน สิวนั้นมีหลายประเภทหลายระยะ และมีรูปร่างแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่สิวหัวเปิดสีดำ สิวอักเสบ ซึ่งหากเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ใต้ผิวหนัง คนไทยนิยมเรียกกันว่าสิวหัวช้าง
สาเหตุ
สิวเกิดจากเซลล์ผิวหนังบริเวณรูขุมขนมีการแบ่งตัวและหลุดลอกผิดปกติ ทำให้เกิดการอุดตันและเกิดเป็นหัวสิว (comedone) หรืออาจมีการอักเสบจากแบคทีเรียในต่อมไขมันคือต้นเหตุของการเกิดสิว มักพบในผู้ที่มีผิวมัน สำหรับสาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากระดับฮอร์โมนเพศชาย (หรือที่เรียกว่าแอนโดรเจน) มีการเปลี่ยนแปลง ต่อมไขมันผลิตไขมันมากขึ้น นอกจากนี้อาจเกิดจากยาทา ยารับประทานบางชนิด การทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางและฮอร์โมน นั่นทำให้ มักสิวเกิดในช่วงวัยรุ่นเป็นหลักเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย สำหรับผู้หญิงบางคนในช่วงก่อนมีประจำเดือนก็จะเกิดอาการสิวเห่อขึ้นได้
โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
โรคผิวหนัง – โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
สะเก็ดเงินคือชื่อของโรคผิวหนังเรื้อรังที่จะทำให้เกิดอาการผิวหนังหนา เป็นขุย เป็นทรงกลมหรือรูปไข่บนร่างกาย มีอาการผิวหนังหนาใต้เล็บ บางรายมีอาการปวดข้อบริเวณมือเท้า โรคสะเก็ดเงินมักมีอาการเป็นๆ หายๆ เป็นโรคผิวหนังที่ไม่ติดต่อ แต่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยสะเก็ดเงิน จะมีสมาชิกอย่างน้อยหนึ่งคนในเครือญาติที่ป่วยเป็นโรคนี้เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ยืนยันตรงกันว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก อ้วนลงพุง และเป็นโรคเบาหวาน มีโอกาสเป็นโรคสะเก็ดเงินได้มากขึ้นด้วย สำหรับโรคสะเก็ดเงินจัดเป็นโรคเรื้อรังรักษาไม่หายขาดแต่ป้องกันการกำเริบของโรคได้ หากดูแลร่างกายให้แข็งแรงหลีกเลี่ยงสิ่งระคายเคือง เกิดจากการปรวนแปรของภูมิคุ้มกันของร่างกาย และไปกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนัง โดยมีพื้นฐานมาจากพันธุกรรมและสิ่งกระตุ้นจากภายนอก พบได้บ่อยในช่วงอายุ 20 ปี และ 40 ปีขึ้นไป โดยพบได้ประมาณร้อยละ 1 – 2 ของประชากรทุกเชื้อชาติ ทั้งเพศหญิงและเพศชายพบได้เท่ากัน
สาเหตุ
โรคสะเก็ดเงินแท้จริงคือ เกิดจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน ทำให้การแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังเร็วกว่าปกติ การเจริญเติบโตและพัฒนาการของผิวหนังจึงไม่สมบูรณ์ อาการที่พบได้บ่อยๆ คือเป็นปื้นนูนแดงปกคลุมด้วยสะเก็ดสีเทาเงิน ผื่นแดงหนาขอบเขตชัดเจน มีสะเก็ดเงินปกคลุม เมื่อขูดลอกสะเก็ดออกจะพบจุดเลือดเล็กๆ ใต้ผิวหนัง มักพบบริเวณข้อศอก เข่า หลังส่วนล่าง และหนังศีรษะ ผื่นอาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่กระจายทั่วร่างกาย ศีรษะจะมี ผื่นแดงลอกเป็นขุยขาวคล้ายรังแค เล็บอาจมีการเปลี่ยนแปลง เช่น เล็บหนา เนื้อเล็บผุกร่อน ลอกเป็นขุยขาวหรือมีหลุมเล็กๆ บริเวณผิวเล็บ และอาจมีอาการปวดข้อ ข้ออักเสบร่วมด้วย ซึ่งสามารถเกิดจากได้จากการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ผิดปกติ รวมไปถึงกรรมพันธุ์ นอกเหนือกจากนั้น ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการบาดเจ็บ ติดเชื้อ HIV ความเครียด การใช้ยาบางตัว ซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis)
โรคผิวหนัง – โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน
ผิวหนังอักเสบจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อของโรคเซ็บเดิร์ม เป็นโรคที่เป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เป็นผื่นผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยในสังคมไทย โรคนี้มีลักษณะเป็นผื่นแดง มีขุยละเอียดสีขาวและเหลือง บริเวณจุดที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ไหล่ หลัง ศีรษะ หากเกิดไม่รุนแรงจะมีลักษณะของผื่นขึ้นเพียงเล็กน้อยร่วมกับมีอาการคัน หากเกิดในระดับที่รุนแรงจะมีผื่นขึ้นในปริมาณมาก มีลักษณะเป็นผื่นแดง ผิวหน้าเป็นขุย และนอกจากจะขึ้นบนใบหน้าแล้ว อาจเกิดขึ้นบริเวณลำตัวร่วมด้วย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยตรง
สาเหตุ
โรคเซ็บเดิร์มมักเกิดจากความแปรปรวนของฮอร์โมน เชื้อรา สิ่งแวดล้อม ไปจนถึงพันธุกรรม เป็นการอักเสบจากภายใน ไม่ใช่การแพ้สัมผัสจากภายนอก มักเกิดจากความผิดปกติในร่างกาย เช่น ภาวะเครียดทางจิตใจ ทำงานหนัก ใกล้สอบ อดนอน ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดผื่นเซ็บเดิร์ม โดยมีปัจจัยให้โรคทำงานคืออุณหภูมิเป็นหลัก หรือบางรายที่เป็นผื่นเซ็บเดิร์มในบริเวณที่กว้างมาก อาจเป็นผลมาจากโรคอื่นๆ เช่น HIV โรคพากินสัน หรือโรคระบบทางเดินประสาทบางชนิด ซึ่งต้องทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจอีกที ซึ่งแม้ว่าโรคนี้จะไม่สามารถหายได้ แต่ก็ยังบรรเทาอาการได้ด้วยการรักษาทางการแพทย์และการดูแลตัวเอง
โรคผิวหนังจากเชื้อรา (Dermatophytosis)
โรคผิวหนังจากเชื้อรา (Dermatophytosis)
โรคผิวหนังจากเชื้อราสามารถแยกย่อยไปได้หลายประเภท โรคติดเชื้อราบริเวณผิวหนังนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย มีลักษณะอาการที่หลากหลาย โดยโรคที่พบได้ทั่วไปที่คนไทย คุ้นชินกันคือ
กลาก (Ringworm)
เป็นโรคติดเชื้อราบนผิวหนังที่พบได้บ่อย โดยผู้ติดเชื้อจะมีผื่นคันปรากฏบนผิวหนังเป็นวงแดงหรือขุยสีขาว และอาจมีอาการอักเสบคล้ายผื่นแดงเกิดขึ้นร่วมด้วย ซึ่งกลากสามารถขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ตั้งแต่หนังศีรษะ ใบหน้า มือ เท้า เล็บ และขาหนีบ โดยพบได้กับคนทุกเพศทุกวัย สำหรับสาเหตุของกลากนั้นเกิดจากเชื้อราที่ผิวหนังในกลุ่มเดอมาโทไฟท์ (Dermatophytes) ที่อาศัยอยู่บนเซลล์ผิวหนังชั้นนอกของมนุษย์ซึ่งแพร่กระจายได้จากการสัมผัสคนหรือสัตว์ที่ติดเชื้อ การสัมผัสดินที่มีเชื้อรา และการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อราเกาะอยู่ เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอน และหวี เป็นต้นเกลื้อน (Tinea Versicolor)
เป็นโรคติดเชื้อเชื้อราที่ผิวหนัง สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่พบได้บ่อยในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น มักเกิดขึ้นบริเวณแขนส่วนบน หน้าอก และหลัง ปรากฏเป็นดวงเล็ก ๆ สีแดง ชมพู หรือน้ำตาล อาจมีสีเข้มหรืออ่อนกว่าผิวหนังบริเวณรอบ ส่งผลให้ผิวแห้ง ตกสะเก็ด และคัน โดยโรคเกลื้อนเกิดจากเชื้อมาลาสซีเซีย (Malassezia) ซึ่งปกติผิวของคนเราส่วนใหญ่จะมีเชื้อราชนิดนี้อยู่แล้ว แต่จำนวนที่มากกว่าปกติจะส่งผลให้ติดเชื้อได้ สำหรับปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เชื้อราเจริญเติบโตมากเกินไป ได้แก่ สภาพอากาศที่ร้อน สภาพผิวมัน ภาวะเหงื่ออกมาก การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม โรคกลากจะไม่แพร่ไปสู่ผู้อื่น เพราะคนส่วนใหญ่มักมียีสต์มาลาสซีเซียอยู่บนผิวหนังอยู่แล้ว
ความผิดปกติภายในร่างกายไม่เพียงจะส่งผลกระทบต่ออวัยวะต่างๆ ข้างในร่างกาย แต่โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้หรือโรคภูมิแพ้ผิวหนัง คืออีกปัญหาที่พบได้บ่อยและส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยภายใน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้หรือโรคภูมิแพ้ผิวหนัง ก็อาจเกิดจากปัจจัยภายนอกได้เช่นกัน เราจึงควรทำความเข้าใจแบบเจาะลึก เพื่อลดโอกาสการเกิดโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้นี้ เพื่อการรักษาอย่างถูกต้องและได้รับการป้องกันอย่างถูกวิธี
โรคผิวหนังและสาเหตุที่พบได้ทั่วไป
หลายคนมีความสับสนเกี่ยวกับโรคผิวหนัง เนื่องจากมันเป็นโรคที่มีชนิดแยกย่อยออกมามากมาย ทั้งร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ซึ่งหากให้แจกแจงในเชิงลึกจริงๆ โรคผิวหนังจะมีนับพัน ๆ ชนิด โดยมีสาเหตุแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเกิดจากสิ่งแวดล้อม พฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือกรรมพันธุ์ก็ตาม โรคผิวหนังที่สามารถพบเจอได้บ่อยในประเทศไทยได้แก่
- โรคเล็บ เช่น เล็บขบ เป็นเชื้อราที่เล็บ
- โรคผิวหนังต่างๆ
- โรคผมร่วง ผมบาง
- โรคที่เกี่ยวกับหนังศีรษะ
- กระเนื้อ ไฝ หรือ หูด
- โรคสะเก็ดเงิน
- โรคด่างขาว
- โรคภูมิแพ้ผิวหนัง
โรคต่างๆ เหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และสามารถพบเจอกันได้บ่อยๆในประเทศไทย ที่ใครๆก็มีโอกาสที่จะเป็นได้ การรักษาอย่างถูกต้องและถูกวิธี จึงเป็นการรักษาที่ตรงจุด ที่สามารถทำให้คุณหมดความกังวนใจเกี่ยวกับโรคผิวหนังต่างๆเหล่านี้ได้ แต่หากจะหาที่รักษาให้ตรงกับโรคที่เป็นเพื่อการรักษาอย่างถูกต้องโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนังจากโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศคงเป็นเรื่องที่หลายๆ คนคิดหนักกันเลยทีเดียวว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี วันนี้เราจึงมี คลินิกรักษาเกี่ยวกับโรคผิวหนังเฉพาะทางดีๆ มาแนะนำให้คุณได้รู้จักกัน
Seven Plus Clinic
ไว้ใจให้เราดูแลด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
วิกฤตฝุ่น PM 2.5 ตัวการทำ “ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง” กำเริบ
หนึ่งในปัญหาการใช้ชีวิตของคนเมือง คือ การต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ส่งผลให้หลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเต็มไปด้วยฝุ่นละอองที่ปกคลุม และพบค่าฝุ่นสูงเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจ รวมถึงระบบผิวหนัง ซึ่งเป็นเป็นอวัยวะที่ต้องเผชิญกับสิ่งแวดล้อมและมลภาวะตลอดเวลา ทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ และระคายเคือง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคผิวหนัง อาทิ โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งนับว่าเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง PM 2.5 กระตุ้นให้อาการกำเริบขึ้นได้
มารู้จัก “โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง” กันว่าเป็นอย่างไร
โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือ Atopic Dermatitis (AD) เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่พบบ่อยขึ้นเรื่อยๆ
ในคนไทย โดยกลไกในการเกิดโรคเกิดจากการที่ผู้ป่วยมีความผิดปกติของผิวหนัง อาทิ ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย มีอาการคัน ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยด้านพันธุกรรมร่วมกับการมีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยมีสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยกระตุ้นให้อาการกำเริบ อาทิ สารแพ้ต่างๆ สารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ภาวะอากาศร้อนจัดหรือหนาวจัด การติดเชื้อที่ผิวหนัง การแพ้อาหารบางชนิด รวมถึงฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งเป็นมลพิษทางอากาศที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ซึ่งผู้ป่วยที่สัมผัสกับฝุ่นละอองเหล่านี้เป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลกระทบให้อาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนังกำเริบขึ้นได้
อาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง มีอาการดังต่อไปนี้
มีอาการคันยุบยิบทั้งร่างกาย รวมถึงใบหน้าและลำคอ ก่อให้เกิดความรำคาญตลอดวัน
มีอาการแสบร้อนบริเวณผิวหนัง ทั้งร่างกาย
มีตุ่มแดงเกิดขึ้น เนื่องจากหลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้เกิดการเกา
ซึ่งอาจนำไปสู่การอักเสบที่มากขึ้น เช่น เป็นแผล และมีน้ำเหลืองซึม
รักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
คลินิก รักษาโรคผิวหนัง โรคเล็บ ผมร่วง อันดับต้นๆของ กรุงเทพ
รักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง
จากโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ
ประสบการณ์มากกว่า 15 ปี
วิธีการดูแลตัวเองของผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบในช่วงที่มีภาวะฝุ่น PM 2.5
ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือการออกไปในบริเวณที่มีมลพิษ
หากมีความจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ให้คอยตรวจเช็กค่าฝุ่น ใช้เวลาสัมผัสกับฝุ่นให้สั้น ที่สุด
รีบอาบน้ำทันที และทาโลชั่น หรือ มอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง
หากมีอาการอักเสบรุนแรง ควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที
วิธีการรักษาผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบ เบื้องต้น
การหลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆ ที่กระตุ้นให้อาการโรคผิวหนังอักเสบกำเริบ
การทาครีมบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ป้องกันผิวแห้ง
ใช้ยาทาลดอาการอักเสบเฉพาะเมื่อมีการอักเสบที่ผิวหนังเท่านั้น
ทาบริเวณผื่นที่มีอาการเห่อแดงอักเสบ เมื่อควบคุมอาการได้ควรลดการใช้ยาหรือหยุดยาตามคำแนะนำของแพทย์
ผู้ป่วยที่มีผื่นขึ้นมากและมีอาการในระดับปานกลางถึงรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ทันที
ซึ่งแพทย์อาจพิจารณาให้รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน
ทั้งนี้หากผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบ มีอาการที่รุนแรง ควรอยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ศูนย์รักษาโรคผิวหนัง เซเว่น พลัส คลินิก
เป็นคลินิกรักษาโรคผิวหนัง รักษาเล็บขบ เลเซอร์ กระ หลุมสิว เลเซอร์หูด ติ่งเนื้อ
คลินิกได้มีการรับรองด้วยมาตรฐานสากล ปลอดภัย
มีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการโรคผิวหนังเฉพาะทาง ที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี
พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย บริการด้วยใจ และได้รับการยอมรับมานาน
มีเจ้าหน้าที่ ไว้คอยบริการอย่างใกล้ชิดหากต้องการความช่วยเหลือ
ศูนย์รักษาโรคผิวหนัง เซเว่น พลัส คลินิก
- ตั้งอยู่ที่ ปากซอย พระราม9 ซอย51 สวนหลวง กรุงเทพฯ
- เปิดบริการทุกวัน 10.00-18.00น.
- เปิดให้บริการด้านความงามหลากหลายประเภท เพื่อรองรับความต้องการที่ต่างกัน ทั้งการดูแลด้านผิวพรรณ รักษาเล็บขบ เลเซอร์ กระ หลุมสิว เลเซอร์หูด ติ่งเนื้อต่างๆ
- ตอบโจทย์สาวยุคใหม่ที่ใส่ใจความงาม ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง ทันสมัย
- มีมาตรฐาน
- สะอาดถูกสุขอนามัย ทำให้ ศูนย์รักษาโรคผิวหนัง เซเว่น พลัส ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการ ว่ามีการให้บริการที่ดีตลอดมา
รักษาโดยแพทย์ผู้ผ่านการศึกษาและอบรม
โรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ รักษาโรคผม เล็บ ผิวหนัง โดยเฉพาะ ประสบการณ์มากกว่า 15 ปี
พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์
(อาจารย์เกตุ)
รีวิวจากลูกค้าที่มาใช้บริการ
คำถามที่พบบ่อย
ลูกค้าสามารถปรึกษาผู้เชียวชาญได้ฟรี พร้อมทั้งประเมินค่าใช้จ่ายก่อนตัดสินใจใช้บริการ
เบื้องต้นลูกค้าสามารถเข้ามาให้ผู้เชียวชาญประเมินอาการก่อนได้คะ ทางผู้เชียวชาญจะให้คำแนะนำเป็นรายเคสไป
ที่คลินิคเซเว่น พลัสมีบริการผ่อนชำระ ลูกค้าสามารถสอบถามที่หน้าเคาท์เตอร์เกี่ยวกับโปรโมชั่นของแต่ละธนาคารได้เลยคะ
ลูกค้าสามารถแอดไลน์ @sevenplus หรือ โทร 094-924 2294 เพื่อทำการนัดหมายได้เลยคะ
ศูนย์แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง เซเว่น พลัส ตั้งอยู่บนถนนพระรามเก้า ใกล้ ๆ กับ เดอะนายน์ พระราม 9 หรือดูแผนที่ได้ที่ส่วนล่างของเพจได้เลยคะ
หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับเล็บเรื้อรังรักษายังไงก็ไม่หายขาด เราคือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณในการรักษาครั้งต่อไปสำหรับคุณ
ศูนย์เลเซอร์ผิวหนัง เซเว่น พลัส
ปากซอย พระราม9 ซอย51 สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
โทร: 02 0055552
มือถือ: 094 9242294
Email: sevenplusclinic@gmail.com
Line ID: @sevenplusclinic
IG/ FB: sevenplusclinic