- มีหูดขึ้นบริเวณฝ่ามือ และฝ่าเท้า
- มีหูดขึ้นบริเวณหน้าผาก หลังมือ และหน้าแข้ง
- มีติ่งเนื้อเล็ก ๆ มักขึ้นที่หนังตา ใบหน้า หรือริมฝีปาก
- มีตุ่มกลม ผิวเรียบเป็นมัน ตรงกลางมีรอยบุ๋ม (หูดข้าวสุก)
- มีติ่งเนื้องอกอ่อน ๆ สีชมพู ผิวขรุขระ ลักษณะคล้ายหงอนไก่
- มีลักษณะเป็นตุ่มนูน ผิวขรุขระ มักพบในช่องปาก
- มีตุ่มหรือเนื้องอกคล้ายโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- มีตุ่มคล้ายอีสุกอีใส เหมือนแผลเป็นหนองติดเชื้อ
หูดคืออะไร สาเหตุของการเกิดหูด พร้อมวิธีป้องกันรักษาอย่างถูกต้อง
หูดเป็นอีกหนึ่งปัญหาทางผิวหนังที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนต้องทนต่ออาการเจ็บปวดและรู้สึกไม่ดี เมื่อมีหูดเกิดขึ้นตามบริเวณผิว โดยมีด้วยกันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นหูดแบบแข็งหรือแบบนิ่ม ก็สามารถสร้างปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังได้มากเลยทีเดียว
สาเหตุของการเกิดหูด คืออะไร
สาเหตุหลักของการเกิดหูดที่บริเวณผิวหนังตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย คือ การติดเชื้อไวรัสประเภท Original Content By SiPH หรือ HPV ที่จะเข้าไปทำให้เซลล์ผิวหนังหนาขึ้นและแข็งตัว หรืออาจจะดันผิวหนังให้มีน้ำใส ๆ ขึ้น มีผิวที่นิ่ม แต่ภายในจะสร้างความรู้สึกเจ็บปวดได้ทุกครั้งที่สัมผัส เมื่อเป็นแล้วสามารถแพร่กระจายไปสู่ผิวหนังส่วนอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้อีกหนึ่งสาเหตุหลัก คือ การมีเพศสัมพันธ์ที่สามารถพาเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย เช่น การเข้าทางแผลอักเสบ, เข้าส่วนผิวที่ถลอกและมีรอยขีดข่วน รวมไปถึงแผลกดทับ การแสดงออกของหูดในแต่ละประเภทจะมีทั้งแข็ง, นิ่ม และเรียบเนียน ดังนั้นหูดจะถูกแบ่งออกดังนี้
- หูดทั่วไปจะมีลักษณะนูนแข็งขึ้นจากผิวอย่างชัดเจนและทำให้ผิวขรุขระ มีสีผิวที่ค่อนข้างเข้ม
- หูดบนฝ่ามือและฝ่าเท้า จะมีลักษณะแข็งและฝังเข้าไปในเนื้อ สีจะออกเหลือง เมื่อไปสัมผัสหูดประเภทนี้แล้วจะรู้สึกเจ็บอยู่ภายใน
- หูดแบบผิวเรียบจะมีลักษณะเป็นตุ่มแบน มีผิวเรียบเนียนเหมือนกับผิวหนังทั่วไป แต่จะทำให้เห็นอย่างเด่นชัดว่าเป็นตุ่มใส ๆ ภายในผิวหนัง
- หูดที่บริเวณอวัยวะเพศจะมีลักษณะคล้ายกับหงอนไก่ โดยจะพบที่ขาหนีบ อวัยวะเพศ และทวารหนักเป็นหลัก
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดหูด
สำหรับการป้องกันหูดสามารถทำได้ง่าย ๆ หลากหลายวิธีด้วยกัน คือ
- พักผ่อนให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรมีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ และเพิ่มความแข็งแรงให้ภูมิต้านทาน เพื่อขจัดเชื้อได้ง่ายขึ้น
- ถ้าต้องการรักษาและป้องกันไม่ให้หูดแพร่ไปสู่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ควรรีบรักษากับแพทย์ทันที
- ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ควรตรวจสอบดูว่าคู่นอนนั้นมีปัญหาเรื่องหูดหงอนไก่หรือไม่?
- รับวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV ได้ที่โรงพยาบาล แต่การป้องกันจะทำได้เพียงแค่กับหูดบางชนิดเท่านั้น
วิธีการรักษา
ถ้าเกิดปัญหาเรื่องหูดที่บริเวณต่าง ๆ ของร่างกายแล้ว คุณควรใช้วิธีการรักษาดังนี้
- เลือกใช้กรดที่สามารถกำจัดหูดได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี โดยกรดนี้จะต้องถูกจ่ายจากทางแพทย์ เพราะมีลักษณะคล้ายยา เช่น กรดไตรคลอโรอะซิติก, กรดซาลิไซลิก และกรดแลคติก เป็นต้น
- ถ้าต้องการความรวดเร็วสามารถใช้วิธีการจี้หูดด้วยความเย็นและไฟฟ้า ที่จะทำให้ได้ผลดีและหายภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว
- ถ้ามีหูดขนาดใหญ่ควรทำการผ่าตัดออก
- ถ้ามีหูดไม่มากและมีขนาดเล็ก สามารถใช้วิธีการเลเซอร์ออกได้อย่างรวดเร็ว
- ถ้าเกิดหูดขึ้นทั่วบริเวณของร่างกายจำนวนมาก รักษาแล้วกลับมาเป็นซ้ำ ให้เลือกรับประทานยา เพื่อกระตุ้นภูมิแบบ DCP แต่ควรต้องพบแพทย์เพื่อการรับยาเท่านั้น
ถ้าไม่อยากเป็นหูดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ควรดูแลให้ดี ทำความสะอาดร่างกายเสมอหลังมีเพศสัมพันธ์และควรตรวจสอบคู่นอนว่ามีปัญหาเรื่องหูดหงอนไก่หรือไม่? พร้อมการฉีดวัคซีนและไม่ปล่อยให้หูดที่เป็นอยู่ขยายใหญ่ขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ขยายไปสู่ผิวหนังส่วนอื่น ๆ เร็วจนเกินไป
ติ่งเนื้อเกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่? ที่นี่มีคำตอบ!
ติ่งเนื้อจะมีลักษณะคล้ายกับผิวส่วนเกินที่จะมีสีเข้มออกมาจากสีผิว โดยส่วนมากแล้วจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานาน ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็วและผู้สูงอายุเป็นหลัก ซึ่งก่อให้เกิดความรำคาญและความกังวลเรื่องของสุขภาพได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ติ่งเนื้อเกิดจากสาเหตุอะไร
ติ่งเนื้อหรือ Skin Tags หรือ Acrochordon จะมีลักษณะคล้ายกับเนื้อส่วนเกินที่เป็นทรงกลมยื่นออกมาจากผิว จึงถูกเรียกว่าติ่งเนื้อ โดยจะมีขนาดกับสีที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละบุคคล จะมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 2 นิ้วไปจนถึงขนาดใหญ่ ถือว่าไม่ใช่เนื้อร้ายและไม่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง แต่ก็ทำให้ผู้ที่เป็นรู้สึกรำคาญใจได้ไม่น้อย เนื่องจากติ่งเนื้อเมื่อต้องเสียดสีกับเสื้อผ้าหรือเพียงแค่ไปสัมผัสถูกบริเวณที่มีติ่งเนื้อ จะทำให้สู้สึกระคายเคืองได้มากพอสมควร ทั้งยังทำให้ผิวไม่เรียบเนียน ซึ่งการกำจัดนั้นถือว่าไม่ง่าย เพราะแม้จะเป็นสิ่งที่ดูเหมือนแค่ดึงก็หลุดได้ แต่เมื่อดึงแล้วจะรู้สึกเจ็บเป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถกลับมาเป็นใหม่ได้อีกครั้ง
โดยติ่งเนื้อจะเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ คือ
- น้ำหนักขึ้นสูงแบบรวดเร็วหรือมีภาวะอ้วนเฉียบพลัน
- ผู้หญิงในช่วงตั้งครรภ์มีสิทธิ์สูงที่จะเกิดติ่งเนื้อได้
- เกิดจากพันธุกรรม ถ้ามีบุคคลในครอบครัวเกิดติ่งเนื้อ ก็สามารถส่งต่อสู่ลูกหลานได้ง่าย
- การติดเชื้อ HPV ส่งผลให้เกิดติ่งเนื้อได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
- ภาวะการดื้ออินซูลินของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานประเภท 2 สามารถทำให้เกิดติ่งเนื้อได้เช่นกัน
วิธีการรักษาติ่งเนื้อ
การรักษาติ่งเนื้อจำเป็นจะต้องใช้วิธีทางการแพทย์ เพื่อไม่ทำให้กลับมาเป็นใหม่อีกครั้งด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- ถ้าติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่และเสี่ยงต่อปัญหาเรื่องการอักเสบ มีเลือดออกเป็นจำนวนมาก ต้องได้รับการผ่าตัดออก
- การใช้วิธี Cryotherapy ที่จะบำบัดด้วยความเย็น เพื่อลดอาการเจ็บปวด ทำให้เซลล์เส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับติ่งเนื้อถูกทำลายและสามารถขจัดได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดความระคายเคืองได้ดี
- การจี้เอาติ่งเนื้อออกจะสามารถทำได้กับติ่งเนื้อขนาดเล็กที่มีสีเข้ม
วิธีการดูแลและป้องกัน
เมื่อรู้ถึงวิธีการรักษาอย่างถูกต้องแล้ว คุณควรจะรู้ว่าไม่ควรนำติ่งเนื้อออกด้วยตัวคุณเอง เพราะอาจจะก่อให้เกิดปัญหาเรื่องความเจ็บปวดและการอักเสบ รวมไปถึงเลือดที่ออกเป็นจำนวนมาก จึงควรพบแพทย์จะถือว่าดีที่สุด จากนั้นใช้วิธีการป้องกันไม่ให้ติ่งเนื้อเกิดซ้ำดังนี้
- ควบคุมน้ำหนักไม่ให้พุ่งสูงเร็วจนเกินไป
- หลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญแสงแดดโดยตรงหรือการติดเชื้อหูด
- เมื่อเกิดลักษณะคล้ายจะเป็นติ่งเนื้อ ต้องรีบพบแพทย์ทันที
แม้ว่าติ่งเนื้อเป็นแล้วจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ และไม่ทำให้เกิดเป็นมะเร็งผิวหนัง แต่ผู้ที่เป็นจะรู้ดีว่าเมื่อไปสัมผัสถูกติ่งเนื้อหรือเพียงแค่เสียดสีกับเสื้อผ้า อาจสร้างความรู้สึกเจ็บที่กวนใจได้ไม่น้อย ดังนั้นจึงควรดูแลรักษาผิวให้สะอาดและเมื่อรู้สึกว่าจะเกิดเป็นติ่งเนื้อ ควรรีบนำออกด้วยวิธีทางการของแพทย์ทันที เพื่อไม่ให้กระจายสู่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายง่ายจนเกินไป
ศูนย์เลเซอร์ผิวหนัง เซเว่น พลัส
ปากซอย พระราม9 ซอย51 สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
โทร: 02 0055552
มือถือ: 094 9242294
Email: sevenplusclinic@gmail.com
Line ID: @sevenplusclinic
IG/ FB: sevenplusclinic
คลินิกผิวหนัง ผม เล็บ – เดอซีเคร็ท
67 ถนนริมคลองประปา เขตบางซื่อ แขวงบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
เปิดทุกวันแบบไม่มีวันหยุด
ช่วงเวลา 12.00-20.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 091-462-9154
Email: dsecretclinic@gmail.com
LINE ID : @dsecretclinic
Facebook : facebook.com/dsecretclini
รบกวนลูกค้าจองคิวก่อนเข้ารับบริการนะคะ
ลูกค้าสามารถปรึกษาผู้เชียวชาญได้ฟรี พร้อมทั้งประเมินค่าใช้จ่ายก่อนตัดสินใจใช้บริการ
เบื้องต้นลูกค้าสามารถเข้ามาให้ผู้เชียวชาญประเมินอาการก่อนได้คะ ทางผู้เชียวชาญจะให้คำแนะนำเป็นรายเคสไป
ที่คลินิคเซเว่น พลัสมีบริการผ่อนชำระ ลูกค้าสามารถสอบถามที่หน้าเคาท์เตอร์เกี่ยวกับโปรโมชั่นของแต่ละธนาคารได้เลยคะ
ลูกค้าสามารถแอดไลน์ @sevenplus หรือ โทร 094-924 2294 เพื่อทำการนัดหมายได้เลยคะ
ศูนย์แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง เซเว่น พลัส ตั้งอยู่บนถนนพระรามเก้า ใกล้ ๆ กับ เดอะนายน์ พระราม 9 หรือดูแผนที่ได้ที่ส่วนล่างของเพจได้เลยคะ
ที่ เซเว่น พลัส คลินิค เรามีผู้เชียวชาญเฉพาะด้านรอให้บริการคุณลูกค้า นำโดย พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ , พญ.ทอรุ้ง หาสิตพานิชกุล